เมื่อจิตไร้สำนึกแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆมาเข้าฝัน
การถอดรหัสเพื่อให้ได้ยินเสียงกระซิบของสัตว์ตัวนั้นว่าต้องการจะสื่อหรือเตือนอะไรเรา
เริ่มจากการบันทึกข้อสังเกต dream observation
โดยให้บันทึกเท่าที่จำได้โดยไม่พยายามเค้นความจำ
ระวังอย่าต่อเติมเสริมแต่งเรื่องราวในฉากฝัน
(ภาพประกอบวาดโดย ครูแม่ส้ม Som Amorn) |
1.ฝันเห็นสัตว์อะไร
2.สัตว์ตัวนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ป่า
3.เชื่องหรือดุร้าย
4.เป็นสัตว์ที่ดูสุขภาพสมบูรณ์ หรือดูอ่อนแอขี้โรค หิวโซ
5.สัตว์ตัวนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน เช่น ในบ้าน ในป่า ในสวน ในความมืด ในที่โล่ง ในรู ในอากาศ หรือในน้ำ
6.เรามีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ตัวนั้นอย่างไร เช่น เรามองดูเฉยๆ เราขี่หลังมัน เราสัมผัสจับต้อง เราพูดคุยด้วย หรือ ถูกกัด ถูกคำรามใส่ หรือวิ่งหนี
7.ตำแหน่งของสัตว์ตัวนั้นอยู่ทิศทางไหนของเรา เช่น อยู่ข้างบน อยู่ข้างล่าง ข้างหน้า ข้างหลัง
8.การเคลื่อนไหวของสัตว์ตัวนั้น เคลื่อนไหวเร็ว หรือช้าๆ หรืออยู่นิ่งๆ
9.สัตว์ตัวนั้นมีสีอะไร
10.มีจำนวนกี่ตัว
11.มีสัตว์ชนิดอื่นปรากฏร่วมด้วยหรือเปล่า
ก่อนที่จะพยายามถอดรหัสความหมายของความฝัน
ให้บันทึกข้อสังเกตทำนองนี้ไว้ในสมุดจดฝันก่อน
ยังไม่ต้องรีบร้อนตีความ
ขณะที่เขียน dream observation
จิตสำนึกกับจิตไร้สำนึกจะค่อยๆทำความรู้จักกัน พูดง่ายๆว่า จิตขณะตื่นกับจิตขณะหลับจะค่อยๆหลอมรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งส่งผลให้เมื่อเราสืบค้นความหมายของสัตว์ในฝันจากตำราต่างๆ
จิตหยั่งรู้ที่เป็น intuitive mind จะทำงานเอง
การทำงานกับความฝันต้องอาศัยเวลาค่อยๆซึมซับสัญญาณและถอดรหัสสัญญาณเหล่านั้น เหตุเพราะสัญญาณและสัญลักษณ์ที่เข้ารหัสมาเป็นความฝันของเรานั้น มันใช้เวลาบ่มเพาะฟักตัวมานาน บางสัญลักษณ์ก็อาจจะบ่มเพาะค่อยๆก่อนรูปสร้างร่างขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรายังเป็นเด็กเล็กๆ เหตุการณ์ที่เราพบเจอได้ประทับลงไปในจิตสำนึก จิตใต้สำนึก และจิตไร้สำนึกตลอดเวลา ในศาสตร์สุบินโยคะของธิเบตเรียกที่สะสมรอยประทับนี้ว่า "อาลัยวิญญาณ" (คลิกอ่านเรื่อง"จิตที่คลุมเครือ")
เขียน 3 กุมภา 2555
No comments:
Post a Comment